ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก ตัวช่วยบำรุงผิวที่คุณอาจจะยังไม่รู้

ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก ตัวช่วยบำรุงผิวที่คุณอาจจะยังไม่รู้

น้ำมันมะกอกเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมายสำหรับคนทุกวัย เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้ผิวชุ่มชื่นและบำรุงผิวให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ น้ำมันมะกอกยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ สามารถช่วยปรับปรุงและชะลอรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังและจุดด่างดำได้ รวมถึงสามารถใช้แทนมอยส์เจอไรเซอร์และทรีตเมนต์อื่น ๆ แทนได้ด้วย นี่ก็เป็นเพียงบางส่วนจากการใช้น้ำมันมะกอก และวันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกเกี่ยวกับ ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก ตัวช่วยบำรุงผิวที่คุณอาจจะยังไม่รู้ ให้ล้วงลึกกว่าเดิม จะมีอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้เลย

รู้จักน้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอก (Olive Oil) คือ น้ำมันธรรมชาติชนิดหนึ่งที่สกัดจากผลของต้นมะกอก เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว มีวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ มีอายุการเก็บรักษานาน และสามารถนำไปใช้ปรุงอาหารหรือบำรุงผิวก็ได้ อีกทั้งน้ำมันมะกอกยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย เพราะสามารถช่วยลดระดับไขมันเลวและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในร่างกายได้ นอกจากนั้น ยังมีการใช้น้ำมันมะกอกเป็นสารตั้งต้นในโรงงานผลิตครีม, โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, ผลิตสบู่, วัสดุอุดฟัน น้ำมันสำหรับนวด รวมถึงนำไปเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว สบู่ แชมพูสระผม และครีมบำรุงผิวหน้า เพราะว่าน้ำมันมะกอกซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความมันบนผิว

ประเภทของน้ำมันมะกอก

ในปัจจุบันมีการแบ่งน้ำมันมะกอกออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ โดยจะแบ่งออกตามการสกัด ความบริสุทธิ์ และปริมาณกรดไขมันในน้ำมัน ได้แก่

• น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (Extra virgin) เป็นน้ำมันมะกอกสีเขียวเข้ม สกัดโดยบีบเอาน้ำมันออกมาจากผลมะกอกสด ๆ มีราคาสูง นำมาทานได้เลยหรือใช้เป็นน้ำสลัดได้ แต่ไม่นิยมนำไปประกอบอาหาร เพราะความร้อนจะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และเปลี่ยนเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีแทน
• น้ำมันมะกอกเวอร์จิน (Virgin) สกัดโดยบีบเอาน้ำมันออกมาจากผลมะกอกสด ๆ แต่ผลมะกอกจะใช้ผลที่แก่กว่า มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน และมีราคาถูกกว่า
• น้ำมันมะกอกแบบผสม (Olive oil หรือ pure olive oil) เป็นน้ำมันที่ผสมกันของน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน และน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้มีคุณค่าทางสารอาหารสูง ทนความร้อนได้ดีขึ้น แต่ก็นำไปทอดไม่ได้ เหมาะกับการประกอบอาหารแบบเร็ว ๆ
• น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil) เป็นน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มทางเคมี มีการสกัดเอาสี กลิ่น รสเดิมออกไป ทำให้น้ำมันมะกอกชนิดนี้มีสีค่อนข้างใส ราคาไม่สูง และทนความร้อนใช้ทอดอาหารได้ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาทานสด
• น้ำมันกากมะกอก (Olive pomace oil) เป็นน้ำมันที่สกัดออกจากกากมะกอกอีกทีจึงนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมีและผ่านความร้อน เป็นเกรดน้ำมันคุณภาพต่ำ สามารถนำไปทอดหรือทำอาหารได้ แต่ไม่ค่อยเป้นที่นิยม เนื่องจากมีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย

ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก ต่อการบำรุงผิว

สารสำคัญที่พบในน้ำมันมะกอกนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพและการบำรุงผิวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น มีกรดไขมันต่างๆ จำนวนมาก ที่ช่วยลดระดับไขมันเลวในร่างกายลง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจากระดับไขมันในเลือดสูงอย่างโรคหัวใจด้วย จึงมีประโยชน์ในการป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ และยังอุดมไปด้วยสารโอลีโอแคนธัลที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ และช่วยในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย สำหรับ ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก ต่อการบำรุงผิว มีดังต่อไปนี้

1. ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว

ประโยชน์หลักของน้ำมันมะกอกคือการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และลดการสูญเสียน้ำ ไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว จึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน หากคุณมีผิวแห้งกร้านให้ลองทาน้ำมันมะกอก เพราะจะสามารถบำรุงผิวให้กลับมาสุขภาพดีได้ ช่วยเติมเต็มน้ำให้กับผิว อีกทั้งน้ำมันมะกอกยังซึมซาบเข้าสู่ผิวเร็วและกักเก็บความชุ่มชื้นได้นาน

2. ช่วยรักษาปัญหาสิว

ในน้ำมันมะกอกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ซึ่งช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวและป้องกันการเกิดสิวบนใบหน้า ทั้งยังป้องกันการอักเสบและอาการบวมแดงของสิวได้ด้วย ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นและเป็นวิธีทำให้สิวหายได้อย่างดี

3. ใช้แทนมอยส์เจอร์ไรเซอร์

น้ำมันมะกอกให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวนุ่มและเรียบเนียน สามารถใช้ทาก่อนนอนได้เลยโดยไม่ต้องทาครีมบำรุงเพิ่ม หรือจะใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวต่าง ๆ ก็ได้ด้วยเช่นกัน เพียงทาน้ำมันมะกอกเล็กน้อยจากนั้นทาครีมบำรุงผิวตามปกติ น้ำมันมะกอกจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกสู่ผิวและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้น

4. ใช้ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด

น้ำมันมะกอกสามารถนำมาล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้อย่างสะอาดหมดจดและยังอ่อนโยนต่อผิวหน้า โดยไม่ต้องออกแรงถูให้ผิวบอบช้ำ แล้วยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าอีกด้วย เพียงแค่ทาน้ำมันมะกอกลงบนผิวหน้า นวดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าแล้วเช็ดออกด้วยสำลี

5. ช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัย

น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามิน A, D, K และ E มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย ซึ่งจะช่วยลดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เป็นตัวการทำให้ผิวเสื่อมสภาพ หากนำน้ำมันมะกอกมาทาบริเวณที่มีริ้วรอยจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว หรือทาบริเวณรอยแผลแล้วล้างออก จะช่วยทำให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น และสร้างผิวใหม่ ทำให้ริ้วรอยและลบรอยแผลเป็นให้ค่อย ๆ จางลง

6. ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ

มลภาวะภายนอกและแสงแดดล้วนเป็นตัวการทำร้ายผิว แต่ในน้ำมันมะกอกมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายและการอักเสบจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้

7. ช่วยป้องกันการเสียดสีจากการโกน

หากคุณจะโกนขนบริเวณแขนหรือขา ให้ทาน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จนทั่วบริเวณก่อน น้ำมันมะกอกจะช่วยลดการเสียดสี ไม่ให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหลังโกนขน ไม่ให้ผิวแห้งและลดอาการคันหลังโกนขน

8. ช่วยในการบำรุงมือและเท้า

น้ำมันมะกอกโดดเด่นในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว จึงเหมาะกับการนำมาบำรุงส่วนที่แห้งกร้านอย่างมือ เล็บ ส้นเท้า หรือตาตุ่ม โดยอาจจะผสมน้ำกับน้ำมันมะกอกเพื่อแช่ หรือจะนำมานวดบริเวณที่แห้งกร้านเป็นประจำทุกวันก็จะทำให้ค่อย ๆ เนียนและชุ่มชื้นขึ้นได้

9. ช่วยบำรุงผิวในการมาส์กหน้า

นำน้ำมันมะกอกมาเป็นส่วนผสมในการมาส์กหน้า จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ โดยสามารถเลือกผสมกับพวกทานาคา ขมิ้น น้ำผึ้ง หรือไข่แดง ฯลฯ แล้วใช้มาส์กหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที จะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีน้ำมีนวล เนียนนุ่มชุ่มชื้นและผิวยังใสขึ้นอีกด้วย และยังสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว

 10. สครับขัดผิว

การสครับผิวนอกจากจะเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่แห้งเสียแล้วยังช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถนำน้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลทรายแดง อาจจะใส่น้ำมันหอมระเหยเข้าด้วย ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปผิวให้ทั่ว จากนั้นบำรุงผิวตามปกติ จะช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งและชุ่มชื้นขึ้น

ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก เห็นได้ว่ามีคุณสมบัติพิเศษกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ ทั้งซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความมันบนผิว ลดการเกิดการอุดตัน ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ แตกต่างกับน้ำมันอื่น ๆ จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการช่วยบำรุงดูแลผิวพรรณเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารหรือสารเคมีชนิดใด รวมทั้งน้ำมันมะกอก ย่อมส่งผลต่อร่างกายไม่มากก็น้อย และไม่ในทางบวกก็ในทางลบ ดังนั้น ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่าอาหาร อาหารเสริม ยา หรือสารใด ๆ สามารถส่งผลต่อตนเองได้อย่างไรบ้าง

วิธีการเลือกใช้น้ำมันมะกอกกับผิว

แม้ว่าน้ำมันมะกอกจะมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพผิว แต่ก่อนที่จะใช้ก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันมะกอกหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพราะอย่างการใช้น้ำมันมะกอกกับผิว บางคนอาจเกิดอาการแพ้หรือผิวหนังอักเสบได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือบางคนอาจจะรับประทานน้ำมันมะกอก เพื่อบำรุงสุขภาพจากภายในก็ต้องบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ควรระมัดระวังในการใช้น้ำมันมะกอกว่าจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยอาจปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้งานหรือรับประทานเสมอ

รวมถึงควรเลือกน้ำมันมะกอกที่มีความบริสุทธิ์สูงที่สุด ไม่ผ่านการกลั่นหรือผ่านกรรมวิธีสกัดจากสารเคมี เพราะจะทำให้ได้รับน้ำมันมะกอกที่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อผิว นอกจากนี้ควรเลือกน้ำมันมะกอกที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของน้ำมันมะกอก

สูตรบำรุงและฟื้นฟูผิวจากน้ำมันมะกอก

หนึ่งในส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวก็คือ น้ำมันมะกอก ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันจำเป็น วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิดที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว สารอาหารเหล่านี้ช่วยฟื้นฟู ป้องกันและปกป้องผิว ลดการอักเสบ และช่วยปรับปรุงลักษณะของผิวให้ดีขึ้น นี่จึงเป็นสูตรบำรุงและฟื้นฟูผิวง่าย ๆ ที่สามารถช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

1. อาบน้ำผสมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 

 อาบน้ำผสมน้ำมันมะกอก โดยเตรียมน้ำมันมะกอก อาจหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบด้วยลงในน้ำที่จะใช้อาบ หรือแช่ตัวไว้ประมาณ 10-20 นาที จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นขึ้นได้

2. น้ำมันมะกอกและน้ำมันละหุ่ง

ผสมน้ำมันมะกอกกับน้ำมันละหุ่งเข้าด้วยกัน จากนั้นนำมานวดบนใบหน้า แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที เช็ดออกด้วยผ้านุ่มที่แช่น้่้ำอุ่นไว้ หรือล้างให้สะอาด น้ำมันละหุ่งมีประโยชน์ในเรื่องป้องกันการสูญเสียน้ำแก่ผิว เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

3. น้ำมันมะกอกและน้ำผึ้ง

 ผสมน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา อาจใส่ไข่แดงเพิ่มด้วยได้ ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นมาส์กทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและผุดผ่องขึ้น เพราะในน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยบำรุงผิวหมองคล้ำ และไข่แดงจะช่วยบำรุงผิวให้หน้าใส

4. น้ำมันมะกอกและขมิ้น

น้ำมันมะกอกผสมกับผงขมิ้น หากกลัวหน้าติดเหลืองสามารถผสมโยเกิร์ตด้วยได้ นำมามาส์กทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เคอร์คูมินในขมิ้นจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดการอักเสบ ส่วนโยเกิร์ตจะช่วยทำให้ใบหน้าขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ 

5.น้ำมันมะกอกและน้ำมะนาว

ใช้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดเบา ๆ ทิ้งไว้ 10 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น เพิ่มความสว่างของผิว และทำให้สิวอุดตันหาย เพราะน้ำมะนาวมีคุณสมบัติช่วยสมานแผล และฆ่าเชื้อโรคได้

หลายคนน่าจะรู้แล้วว่า ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก นั้นช่วยบำรุงผิวได้อย่างไรบ้าง ในน้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามินและสารต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ สามารถนำน้ำมันมะกอกมาผสมกับส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวอื่น ๆ ได้หลายอีกอย่าง ซึ่งมีคุณประโยชน์ในการบำรุงผิว รวมถึงประโยชน์สุขภาพเป็นอย่างมาก เห็นได้ว่าน้ำมันมะกอกนั้นนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายทั้งร่างกายเลยทีเดียว

อ้างอิง 

• น้ำมันมะกอก ประโยชน์ดียังไง ถ้าอยากกินเพียว ๆ ควรเลือกแบบไหนดี. https://health.kapook.com/view252066.html
• 6 สูตรฟื้นฟูและบำรุงผิวหน้าจากน้ำมันมะกอก ให้กลับมาสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ. https://www.thaiticketmajor.com/variety/lifestyle/7927/

• Facebook
• Twitter
• Line